ทีมหงส์แดงเดิมพันที่เอลเกรียน

ซึ่งถ้าปฏิสนธิไม่มีอะไรผิดเผอเรอ ทางสโมสรทีม ลิเวอร์พูล จะได้ฤกษ์ต้อนรับกองหน้าคนใหม่และคนสุดท้ายในช่วงซัมเมอร์นี้ ที่มีนามว่า มาริโอ บาโลเตลลี่
และสำหรับพรรคสาวกทีม เดอะ ค๊อป แล้ว การเซ็นสัญญาดังกล่าวน่าจะสร้างอารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลาย โดยเฉพาะกับการที่แฟนโปรแกรมบอลเชื้อสายนี้เคยมานะเร่งเร้าให้บอร์ดบริหารซื้อดาวยิงระดับพระกาฬเพื่อทดแทนการขาดหายไปของ หลุยส์ ซัวเรซ มาร่วมทัพเสียที
ซึ่งมันอาจจะดูดุจกับว่าทีม ลิเวอร์พูล เสียตัว กัด เพื่อไปได้ตัว เกรียน มาแทน แต่ว่าหากจะมองโลกในแง่บวกโลกสวยฟรุ้งฟริ้งกันสักนิด ที่จริงอย่างหนึ่งในชีวิตของ บาโลเตลลี่ ก็คือเขาไม่ชินเห็นหัวไหล่ใครยังมีชีวิตอยู่ snack อาหารว่างไว้ขบเคี้ยวเล่น 555++

ซึ่งจากเป้าหมายที่ดูเหมือนว่าจะเป็นแค่ข่าวลือ แต่ดันกลายเป็นจริง
ด้วยกันเมื่อเทียบกับ 1.การเตะบอลใส่รถกอล์ฟ , 2.ขว้างลูกดอกปาเป้าใส่ทีมนักเตะเยาวชน หรือ 3.จุดไฟเผาบ้านตัวเอง เรื่องราวทั้งหมดอาจไม่ได้เลวอะไรนัก
ซึ่งนั่นเชื่อเหลือเกินนะครับว่า ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนไม่เคยสงสัยในคุณสมบัติพิเศษที่มีมาแต่กำเนิดของ เอล เกรียน หากแต่สิ่งเดียวที่ปิดกั้นระหว่างตัวเขากับนิยามของการเป็นแข้งระดับโลกก็คือ ทัศนคติ
- ความไม่มีวินัย
- อารมณ์แรงกระตุ้นแปรปรวน
- เต็มที่เฉพาะในเวลาที่อยากเต็มที่
- รักจะยิงแต่ลูกสวยๆ
- เกลียดทุกอย่างที่เป็นความธรรมชาติ หรือถ้าหากจะพูดแบบมัดรวมง่ายๆ ก็คือสันดานเด็กดื้อนั่นเอง
แต่หากมาลองวิเคราะห์บอลพร้อมทั้งมองกันบนพื้นฐานของโลกแห่งความเป็นจริง แฟนๆ ทีมลิเวอร์พูล คงต้องก้มหน้านัยว่า บาโลเตลลี่ ไม่ใช่ตัวเลือกกองหน้าอันดับ 1 ที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เฝ้าฝัน แต่เขากำลังจะได้ย้ายมาสัมผัสประสบการณ์ใน แอนฟิลด์ ก็เนื่องจากตัวเลือกอื่นๆ ที่ทีม หงส์แดง เล็งไว้อย่าง
- ราดาเมล ฟัลเกา
- เอดินสัน คาวานี่
- โดยที่เอเซเกล ลาเวซซี่ ไม่ยอมย้ายมามากกว่า
หรือไม่ก็ว่าจะเป็นเพราะ บี-ร็อด คิดถึงบรรยากาศของความสับสนอลหม่านเมื่อสมัยที่ คิง หลุยส์ ยังอยู่ที่นี่ไม่ใช่หรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะถ้าหากเราตอกกลับเวลากลับไปเมื่อ 3 อาทิตย์ก่อนหน้านี้ ร็อดเจอร์ส เพิ่งจะปฏิเสธข่าวคราวลือที่พัวพันกับ น้องโอ้ ไปด้วยซ้ำ

พร้อมทั้งด้วยฟอร์มการเจอกันที่อเมริกาทีม แฟนหงส์ต่างร้อง ยี้ แต่ตอนนี้ได้มาก็ เอาน่ะ
ซึ่งอยู่ดีๆ ร็อดเจอร์ส ก็เกิดเลือกจิ้มเดิมพันการเซ็นสัญญากับ บาโลเตลลี่ ในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะ และนี่จะเป็นความพยายามของอีก 1 กุนซือที่มีความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่าจะอาจเปลี่ยนกองหน้าทีมชาติอิตาลี จากน้ำเปล่าให้เป็นไวน์ชั้นเลิศได้
โดยที่โบราณกาลเจ้านายเก่าของ บาโล อย่าง
- โรแบร์โต้ มันชินี่
- โชเซ่ มูรินโญ่
- มักซิมิลิเอโน่ อัลเลกรี
- คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ
- เซซาเร่ ปรันเดลลี่
ซึ่งก็คงจะระวังรอดูความหมั่นของ ร็อดเจอร์ส ด้วยใจระทึก
ด้วยวัยถึง 24 ขวบ สำหรับร็อดเจอร์ส คงไม่สามารถอ้างว่า บาโลเตลลี่ ยังลูกเกินไปได้อีกแล้ว เช่นเดียวกับ บาโลเตลลี่ ที่ก็คงเหลือข้ออ้างในการทำผิดพลาดอยู่น้อยเต็มที
ซึ่งริชาร์ด โจลลี่ คอลัมนิสคนดังของ Goal.com หล่นความเห็นระบุใจความสั้นๆ ที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งเอาไว้ว่า ฐานะของ บาโลเตลลี่ ในครั้งนี้มีบางอย่างที่คล้ายๆ กับ ดาเนี่ยล สเตอรริดจ์ เมื่อเดือน มกราคม 2013 ซึ่งนั่นก็คือนี่อาจเป็นหนสุดท้ายที่เขาจะได้พิสูจน์ตัวกับสโมสรระดับ บิ๊กทีม
และทางด้านสเตอร์ริดจ์ สามารถเอาตัวรอดพิสูจน์ตัวเองมาได้จากผลงาน 1 หน้ากาลครึ่งอันแสนจะน่าประทับใจ ซึ่งบาโลเตลลี่ เองก็ไม่ต่างกัน เพราะหากเขาทำภารกิจของตัวเองในครั้งนี้ได้สำเร็จ มูลค่าทางการตลาดของพนมจะถูกดันขึ้นมาสูงลิบลิ่วขึ้นอีกครั้ง แต่ถ้าทุกอย่างจบลงด้วยความล้มเหลว สโมสรต่อไปของ บาโลเตลลี่ อาจกลายเป็นทีมอย่าง 1.ปาร์ม่า , 2.โตริโน่ , 3.นิวคาสเซิ่ล หรือ 4.เวสต์แฮม
แต่กลับว่าอย่างน้อย เกรียนโอ้ ก็คือจอมยิงทีม ผีแดง คนหนึงถ้าทำได้สักลูกแฟนหงส์คงวางใจ เขาได้สบาย
และหากจะพูดไปถึงการเล่นให้กับทีมเหล่านี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายอะไรขนาดนั้น แต่เราก็ต้องยอมรับว่านั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่แฟนฟุตบอลทุกคนคาดหวังจาก เกรียนโอ้ เมื่อ 6 ปีก่อนเช่นกัน
เหมือนกับเป็นบทพิสูจน์ครั้งใหม่ , และความคาดหวังครั้งใหม่ของ มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่ควรจะต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อแปรเปลี่ยนฉากจบของตัวเองให้เป็นรูปแบบอื่นที่ดีกว่าโลกใบเก่าของเขาบ้างเสียที
และถ้าหากเขาทำไม่สำเร็จ นอกเหนือจากที่อาชีพการค้าแข้งของเขาจะพุ่งเข้าสู่ช่วงดิ่งลงเหวอย่างเต็มตัวแบบแน่นอนแล้ว เขาก็อาจแปรสภาพกลายเป็นร่างทรงของ สแตน คอลลีมอร์ ที่คุ้นแท็คทีมกับเพื่อนๆ ชาวแก๊งตัวแสบ คอยปีนเกลียว รอย อีแวนส์ กุนซือมาดนุ่มของทีม หงส์แดง ชุด สไปซ์บอย จนพาลทำสปิริตภายในทีมพังไม่เป็นท่า
ด้วยกันเมื่อนั้น ลิเวอร์พูล ก็อาจกลับไปเอวังเข้าสูตรของสโมสร Keep look
ด้วยวัยถึง 24 ขวบ สำหรับร็อดเจอร์ส คงไม่สามารถอ้างว่า บาโลเตลลี่ ยังลูกเกินไปได้อีกแล้ว เช่นเดียวกับ บาโลเตลลี่ ที่ก็คงเหลือข้ออ้างในการทำผิดพลาดอยู่น้อยเต็มที
ซึ่งริชาร์ด โจลลี่ คอลัมนิสคนดังของ Goal.com หล่นความเห็นระบุใจความสั้นๆ ที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งเอาไว้ว่า ฐานะของ บาโลเตลลี่ ในครั้งนี้มีบางอย่างที่คล้ายๆ กับ ดาเนี่ยล สเตอรริดจ์ เมื่อเดือน มกราคม 2013 ซึ่งนั่นก็คือนี่อาจเป็นหนสุดท้ายที่เขาจะได้พิสูจน์ตัวกับสโมสรระดับ บิ๊กทีม
และทางด้านสเตอร์ริดจ์ สามารถเอาตัวรอดพิสูจน์ตัวเองมาได้จากผลงาน 1 หน้ากาลครึ่งอันแสนจะน่าประทับใจ ซึ่งบาโลเตลลี่ เองก็ไม่ต่างกัน เพราะหากเขาทำภารกิจของตัวเองในครั้งนี้ได้สำเร็จ มูลค่าทางการตลาดของพนมจะถูกดันขึ้นมาสูงลิบลิ่วขึ้นอีกครั้ง แต่ถ้าทุกอย่างจบลงด้วยความล้มเหลว สโมสรต่อไปของ บาโลเตลลี่ อาจกลายเป็นทีมอย่าง 1.ปาร์ม่า , 2.โตริโน่ , 3.นิวคาสเซิ่ล หรือ 4.เวสต์แฮม

แต่กลับว่าอย่างน้อย เกรียนโอ้ ก็คือจอมยิงทีม ผีแดง คนหนึงถ้าทำได้สักลูกแฟนหงส์คงวางใจ เขาได้สบาย
และหากจะพูดไปถึงการเล่นให้กับทีมเหล่านี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายอะไรขนาดนั้น แต่เราก็ต้องยอมรับว่านั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่แฟนฟุตบอลทุกคนคาดหวังจาก เกรียนโอ้ เมื่อ 6 ปีก่อนเช่นกัน
เหมือนกับเป็นบทพิสูจน์ครั้งใหม่ , และความคาดหวังครั้งใหม่ของ มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่ควรจะต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อแปรเปลี่ยนฉากจบของตัวเองให้เป็นรูปแบบอื่นที่ดีกว่าโลกใบเก่าของเขาบ้างเสียที
และถ้าหากเขาทำไม่สำเร็จ นอกเหนือจากที่อาชีพการค้าแข้งของเขาจะพุ่งเข้าสู่ช่วงดิ่งลงเหวอย่างเต็มตัวแบบแน่นอนแล้ว เขาก็อาจแปรสภาพกลายเป็นร่างทรงของ สแตน คอลลีมอร์ ที่คุ้นแท็คทีมกับเพื่อนๆ ชาวแก๊งตัวแสบ คอยปีนเกลียว รอย อีแวนส์ กุนซือมาดนุ่มของทีม หงส์แดง ชุด สไปซ์บอย จนพาลทำสปิริตภายในทีมพังไม่เป็นท่า
ด้วยกันเมื่อนั้น ลิเวอร์พูล ก็อาจกลับไปเอวังเข้าสูตรของสโมสร Keep look
- สวยแต่รูปจูบไม่หอม
- กินไม่ได้ แต่เท่ หรือ
- เก่งแต่ป้อ ล่_ไม่เป็น ด้วยประการฉะนี้
มาช่วยกันภาวนาเอาใจช่วย ร็อดเจอร์ส กันด้วยแล้วกันครับ
ทีมผีแดงทุบสถิติ ถลุงเงินซื้อแข้งใหม่แซงงบปี 2007

เมื่อสื่อได้แฉว่า นี่เป็นซัมเมอร์ที่ทีม แมนฯ ยูฯ ได้ลงทุนซื้อแข้งเยอะสุดในความเป็นมาศาสตร์สโมสรทำลายสถิติเมื่อปี 2007 ที่ดึง 1.อันแดร์สัน, 2.นานี่, 3.ฮาร์กรีฟส์ และ 4.เตเวซ มาเสริมทัพ
โดยที่สื่ออย่าง อีเอสพีเอ็น ที่เป็นสื่อกีฬาชื่อดัง ได้เฉพาะกิจสถิติการจับจ่ายใช้สอยของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยปรากฏออกมาว่าตัวเลข 72 ล้านปอนด์หรือ 3,960 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการลงทุนของทีม ปีศาจแดง ที่เป็นบ้าเป็นหลังที่สุดในเรื่องเก่าแก่ ทำลายสถิติเก่าของตัวเองที่เคยสร้างเอาไว้เมื่อปี 2007 ในยุคของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จอมคนเลือดสกอต
ทางด้านบอร์ดบริหารของทีม ปีศาจแดง ซึ่งอยู่ภายใต้การคุมทัพของ หลุยส์ ฟาน กัล ได้มีการเขียนชื่อสัญญาคว้าตัว
- ลุค ชอว์ แบ็กซ้ายของ เซาธ์แฮมป์ตัน มาร่วมทัพที่ค่าตัว 27 ล้านปอนด์หรือ 1,485 ล้านบาท
- อันเดร์ เอร์ราร่า ห้องเครื่องจาก แอธเลติก บิลเบา ที่ 28.8 ล้านปอนด์หรือ 1584 ล้านบาท
ก่อนจะมาลงเอยรายล่าสุด
- โดยที่มาร์กอส โรโฮ ฟูลแบ็กของทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน ที่มีค่าตัว 16 ล้านปอนด์หรือ 880 ล้านบาท
ทำให้ที่สุดรวมไปแตะที่ถึง 71.8 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว
และสำหรับสถิติเก่าการทุ่มเงินซื้อตัวสูงสุดของทีม ปีศาจแดง นั้นต้องย้อนกลับไปในปี 2007 ที่มีการคว้าตัว
และสำหรับสถิติเก่าการทุ่มเงินซื้อตัวสูงสุดของทีม ปีศาจแดง นั้นต้องย้อนกลับไปในปี 2007 ที่มีการคว้าตัว
- อันแดร์สัน ห้องเครื่องจากทีม เอฟซี ปอร์โต้
- หลุยส์ นานี่ ปีกจากทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน
- โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ กองกลางจากทีมบาเยิร์น มิวนิค รวมไปถึงเซ็นยืม
- คาร์ลอส เตเวซ กองหน้าจากทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
เบ็ดเสร็จต้องชำระเงินไปทั้งหมดราวๆ 62 ล้านปอนด์หรือ 3,410 ล้านบาท
เมื่อเด็กเยาวชนของทีม ลิเวอร์พูล คนหนึ่งถาม คาร์ราเกอร์ ว่าเจนโดน ซัวเรซ อดีตกองหน้าลิเวอร์พูล กัดหรือเปล่า
ซึ่งเจมี่ คาร์ราเกอร์ เรื่องเก่าแก่กองหลังของทีม หงส์แดง ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เจอกับคำถามสุดฮาระหว่างเดินทางไปเยี่ยมชมการฝึกซ้อมของทีมเยาวชน ด้วยกันแจกลายเซ็นให้กับน้องๆ หลังจากที่มีเด็กคนหนึ่งถามเจ้าตัวว่าเคยชินโดน หลุยส์ ซัวเรซ อดีตกองหน้าเพื่อนร่วมทีมกัดบ้างหรือเปล่า
โดยที่ซัวเรซ เคยก่อคดีกัดนักเตะทีมคู่แข่งมาแล้วถึง 3 ครั้ง จนทำให้เด็กคนหนึ่งสงสัยในเรื่องนี้และถามกับ คาร์ราเกอร์ ว่า คุณคุ้นโดน หลุยส์ ซัวเรซ กัดไหม ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะจากอดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษ แต่เจ้าตัวไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
ซึ่งในธุรกิจนี้ทีม ปีศาจแดง ได้มีลุ้น หลีงอันเชล็อตติ กุนซือทีม ราชันชุดขาว เผยเอง ดิ มาเรีย ขอยักย้ายถ่ายเททีมแล้วโดยบอกปัดสัญญาฉบับใหม่
ซึ่งคาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์คนเก่งของทีม ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด มหาอำนาจแห่งศึกลา ลีกา สเปน ออกมายอมรับแล้วว่า อังเคล ดิ มาเรีย ปีกทีมชาติอาร์เจนตินา ต้องการย้ายออกจากถิ่นซานติอาโก้ เบร์เนาเบว ภายในซัมเมอร์นี้ ภายหลังปฎิเสธที่จะจรดปากกาขยายสัญญาฉบับใหม่
โดยดิ มาเรีย วัย 26 ปี ตกเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องกับการย้ายไปอยู่กับทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยในช่วงเปิดซีซั่นใหม่เขาต้องตกเป็นตัวสำรองของ เรอัล มาดริด ภายหลังจากการย้ายเข้ามาของ 2 นักเตะชื่อดังอย่าง ฮาเมส โรดริเกซ เพลย์เมกเกอร์ชาวโคลอมเบีย และ โทนี่ โครส มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน
หลังจากที่อันเชล็อตติ ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า ดิ มาเรีย ขอที่จะย้ายทีม และปฏิเสธรับข้อเสนอเป็นสัญญาใหม่จากสโมสร เราพยายามแก้ไขปัญหานี้ แต่หากเขาไม่อาจหาบทสรุปเกี่ยวกับอนาคตของเขาได้ เขาก็อาจจะอยู่กับทีมต่อไปได้ และเล่นให้กับทีม มันไม่ใช่ปัญหา
ในขณะเดียวกันที่ กุนซือชาวอิตาเลียน ได้ให้สัมภาษณ์เนื่องกับสถานการณ์ของ ซามี่ เคห์ดิร่า มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน ที่มีข่าวกับ 1.ทีมบาเยิร์น มิวนิค, 2.ทีมเชลซี และ 3.ทีมอาร์เซนอล ว่า สถานการณ์ของ เคห์ดิร่า ต่างจาก ดิ มาเรีย เขาเหลือสัญญาอีก 1 ปี ด้วยกันเพิ่งกลับมาจากอาการบาดเจ็บหนัก เราจะรอดูกันต่อไป แต่เขายังไม่ได้ขอขึ้นบัญชีย้ายทีมนะ
โดยที่เวนเกอร์ ลั่นว่าไม่เสียใจเลยที่ เชส เมินกลับรังปืน แถมยังโผซบ คณะสิงห์บลูส์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ซึ่งอาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมของ อาร์เซน่อล สโมสรชั้นนำแห่งเวทีโปรแกรมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกเศร้าโศกแต่อย่างใดที่ เชส ฟาเบรกาส อดีตมิดฟิลด์กัปตันเลือกย้ายจาก บาร์เซโลน่า ไปอยู่กับสโมสรอริร่วมกรุงลอนดอนอย่าง เชลซี เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่่ผ่านมา พร้อมทั้งกับยกยอปอปั้น อารอน แรมซี่ย์ กองกลางทีมชาติเวลส์ว่าแข้งรายนี้เป็นผู้ที่ทำให้พวกทีม เดอะ กันเนอร์ส ลืมกองกลางทีมชาติไปแล้วในเวลานี้
และนายใหญ่ชาวฝรั่งเศส ได้กล่าวถึงการพลาดคว้าตัวศิษย์เก่ารายนี้กลับมารียูเนี่ยนกันในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อีกครั้งว่า ผมไม่ได้รู้สึกเสียใจเลยที่ เชส ฟาเบรกาส ยักย้ายไปอยู่กับ เชลซี สิ่งเดียวที่ผมเสียใจก็คือการมองข้ามตัวเลือกแรกอย่าง อาร์เซน่อล ส่วน อารอน แรมซี่ย์ มีสไตล์การเล่นที่แตกต่างจาก เชส แต่เขาเป็นผู้ที่มีศักยภาพรอบด้าน
คาร์ร่าก๊ากเมื่อเจอเด็กถามว่าเคยถูกซัวเรซกัดไหม + คลิป

เมื่อเด็กเยาวชนของทีม ลิเวอร์พูล คนหนึ่งถาม คาร์ราเกอร์ ว่าเจนโดน ซัวเรซ อดีตกองหน้าลิเวอร์พูล กัดหรือเปล่า
ซึ่งเจมี่ คาร์ราเกอร์ เรื่องเก่าแก่กองหลังของทีม หงส์แดง ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เจอกับคำถามสุดฮาระหว่างเดินทางไปเยี่ยมชมการฝึกซ้อมของทีมเยาวชน ด้วยกันแจกลายเซ็นให้กับน้องๆ หลังจากที่มีเด็กคนหนึ่งถามเจ้าตัวว่าเคยชินโดน หลุยส์ ซัวเรซ อดีตกองหน้าเพื่อนร่วมทีมกัดบ้างหรือเปล่า
โดยที่ซัวเรซ เคยก่อคดีกัดนักเตะทีมคู่แข่งมาแล้วถึง 3 ครั้ง จนทำให้เด็กคนหนึ่งสงสัยในเรื่องนี้และถามกับ คาร์ราเกอร์ ว่า คุณคุ้นโดน หลุยส์ ซัวเรซ กัดไหม ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะจากอดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษ แต่เจ้าตัวไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
ทีมผีแดงลุ้นหนัก ให้ดิมาเรียขอย้ายจากชุดขาว

ซึ่งในธุรกิจนี้ทีม ปีศาจแดง ได้มีลุ้น หลีงอันเชล็อตติ กุนซือทีม ราชันชุดขาว เผยเอง ดิ มาเรีย ขอยักย้ายถ่ายเททีมแล้วโดยบอกปัดสัญญาฉบับใหม่
ซึ่งคาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์คนเก่งของทีม ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด มหาอำนาจแห่งศึกลา ลีกา สเปน ออกมายอมรับแล้วว่า อังเคล ดิ มาเรีย ปีกทีมชาติอาร์เจนตินา ต้องการย้ายออกจากถิ่นซานติอาโก้ เบร์เนาเบว ภายในซัมเมอร์นี้ ภายหลังปฎิเสธที่จะจรดปากกาขยายสัญญาฉบับใหม่
โดยดิ มาเรีย วัย 26 ปี ตกเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องกับการย้ายไปอยู่กับทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยในช่วงเปิดซีซั่นใหม่เขาต้องตกเป็นตัวสำรองของ เรอัล มาดริด ภายหลังจากการย้ายเข้ามาของ 2 นักเตะชื่อดังอย่าง ฮาเมส โรดริเกซ เพลย์เมกเกอร์ชาวโคลอมเบีย และ โทนี่ โครส มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน
หลังจากที่อันเชล็อตติ ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า ดิ มาเรีย ขอที่จะย้ายทีม และปฏิเสธรับข้อเสนอเป็นสัญญาใหม่จากสโมสร เราพยายามแก้ไขปัญหานี้ แต่หากเขาไม่อาจหาบทสรุปเกี่ยวกับอนาคตของเขาได้ เขาก็อาจจะอยู่กับทีมต่อไปได้ และเล่นให้กับทีม มันไม่ใช่ปัญหา
ในขณะเดียวกันที่ กุนซือชาวอิตาเลียน ได้ให้สัมภาษณ์เนื่องกับสถานการณ์ของ ซามี่ เคห์ดิร่า มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน ที่มีข่าวกับ 1.ทีมบาเยิร์น มิวนิค, 2.ทีมเชลซี และ 3.ทีมอาร์เซนอล ว่า สถานการณ์ของ เคห์ดิร่า ต่างจาก ดิ มาเรีย เขาเหลือสัญญาอีก 1 ปี ด้วยกันเพิ่งกลับมาจากอาการบาดเจ็บหนัก เราจะรอดูกันต่อไป แต่เขายังไม่ได้ขอขึ้นบัญชีย้ายทีมนะ
จนถึงเวนเกอร์ลั่นว่าไม่เสียใจเลยที่เชสซบทีมสิงห์บลูส์

โดยที่เวนเกอร์ ลั่นว่าไม่เสียใจเลยที่ เชส เมินกลับรังปืน แถมยังโผซบ คณะสิงห์บลูส์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ซึ่งอาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมของ อาร์เซน่อล สโมสรชั้นนำแห่งเวทีโปรแกรมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกเศร้าโศกแต่อย่างใดที่ เชส ฟาเบรกาส อดีตมิดฟิลด์กัปตันเลือกย้ายจาก บาร์เซโลน่า ไปอยู่กับสโมสรอริร่วมกรุงลอนดอนอย่าง เชลซี เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่่ผ่านมา พร้อมทั้งกับยกยอปอปั้น อารอน แรมซี่ย์ กองกลางทีมชาติเวลส์ว่าแข้งรายนี้เป็นผู้ที่ทำให้พวกทีม เดอะ กันเนอร์ส ลืมกองกลางทีมชาติไปแล้วในเวลานี้
และนายใหญ่ชาวฝรั่งเศส ได้กล่าวถึงการพลาดคว้าตัวศิษย์เก่ารายนี้กลับมารียูเนี่ยนกันในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อีกครั้งว่า ผมไม่ได้รู้สึกเสียใจเลยที่ เชส ฟาเบรกาส ยักย้ายไปอยู่กับ เชลซี สิ่งเดียวที่ผมเสียใจก็คือการมองข้ามตัวเลือกแรกอย่าง อาร์เซน่อล ส่วน อารอน แรมซี่ย์ มีสไตล์การเล่นที่แตกต่างจาก เชส แต่เขาเป็นผู้ที่มีศักยภาพรอบด้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น